ออกเดินทางกันตั้งแต่ ตี 4 ครึ่ง ไปถึงท่าเรือ 9 โมง ระหว่างทางที่ผ่านมาเห็นป้ายโฆษณาท่าเรือเต็มไปหมด ส่วนมากเป็นของ CenterPoint มีตั๋วเรือขายตามข้างทางอีกต่างหาก เราว่าราคาเหมือนจะขี้โกงเลย ดีที่หาข้อมูลจากบนเว็บไซต์ก่อน เลยตรงดิ่งไปที่ท่าอ่าวธรรมชาติ ซื้อตั๋วไป-กลับ นั่งเรือ 20 นาทีเอง ที่ CenterPoint นั่งเกือบชั่วโมง แถมแพงกว่าอีกต่างหาก
ไปดูท่าเรือตอนเช้า รถไม่ค่อยเยอะมาก
ได้ขึ้นเรือแล้ว อากาศดีมาก แต่ฟ้าเหมือนฝนจะตกเลย
เรือลำอื่น
นั่งยังไม่ทันจะเบื่อเลยก็ถึงฝั่งล่ะ เดี่ยวไปเที่ยวต่อกันบนฝั่ง
กล้วยที่จุดชมวิวตรงที่ทำการอุทยานฯ
ส่องดูอะไรเอ่ย??? จุดชมวิวตรงนี้มองไปเห็นป่าเขียวขจีไปหมด มองไปไกลๆ จะเห็นทะเลด้วย
ส่องกันเข้าไปท่าทางวิวจะสวยมาก (จริงๆ แล้วไม่เห็นอะไรเลยมืดไปหมด หาที่หยอดเหรียญก็ไม่เจอ )
ถ่ายคู่บ้าง เป็นคนถ่ายก็งี้แหละ ไม่ค่อยมีรูปตัวเองเท่าไหร่
หลังจากออกจากที่ทำการอุทยานฯ ขับรถฝ่าเส้นทางหฤโหดสุดมันส์มาได้สักพัก ก่อนจะถึงทางที่โหดที่สุด ฝนก็ดันตกลงมาอีก ตกหนักจนมองไม่เห็นอะไรเลย เลยต้องจอดพักให้ฝนเบาลงที่จุดชมวิว เหนือ ซีวิว รีสอร์ท ตรงนี้จะมองเห็นวิวทะเลสวยมาก แต่ตอนนี้ไม่เห็นอะไรเลย พอฝนหยุดก็เดินทางต่อ มาถึงหมู่บ้านประมงบางเบ้า พอเดินเข้าไปเห็นแต่ร้านขายของที่ระลึกกับร้านอาหาร ไม่เห็นจะเหมือนหมู่บ้านประมงตรงไหน
หลังจากออกจากที่ทำการอุทยานฯ ขับรถฝ่าเส้นทางหฤโหดสุดมันส์มาได้สักพัก ก่อนจะถึงทางที่โหดที่สุด ฝนก็ดันตกลงมาอีก ตกหนักจนมองไม่เห็นอะไรเลย เลยต้องจอดพักให้ฝนเบาลงที่จุดชมวิว เหนือ ซีวิว รีสอร์ท ตรงนี้จะมองเห็นวิวทะเลสวยมาก แต่ตอนนี้ไม่เห็นอะไรเลย
พอฝนหยุดก็เดินทางต่อ มาถึงหมู่บ้านประมงบางเบ้า พอเดินเข้าไปเห็นแต่ร้านขายของที่ระลึกกับร้านอาหาร ไม่เห็นจะเหมือนหมู่บ้านประมงตรงไหน
บ้านสีฟ้าสดใส
มองไปในทะเลเห็นบ้านพักแบบโฮมสเตย์หลายหลัง
เหนื่อยแล้วพักกินข้าวเที่ยงกันก่อนที่ ร้านชาวเล ซีฟู้ด อาหารพอใช้ได้แต่ค่อนข้างช้า
ต้มยำกุ้ง ทั้งทริปมีรูปอาหารอยู่รูปเดียวเนื่องจากกว่าจะนึกขึ้นได้ว่าต้องถ่ายก็หมดไปครึ่งจานแล้ว
แอบถ่ายร้านอาหารข้างๆ
วิวมองจากร้านอาหาร ซูมสุดๆ เพราะอยู่ไกลมาก
ที่นั่งริมทะเลที่ไม่มีใครนั่งเลยเพราะแดดร้อนมาก แต่ก็เป็นที่นั่งที่วิวดีที่สุด
และแล้วก็มาถึงที่พัก เกาะช้าง แกรนด์ ลากูน่า ซื้อในงานท่องเที่ยว
มาดูรอบๆ รีสอร์ทกัน
บรรยากาศภายในรีสอร์ทค่อนข้างดี ต้นไม้เยอะ ร่มรื่น โดยรวมถือว่าใช้ได้
พาหนะที่ใช้เดินทางภายในรีสอร์ท ที่นี่พื้นที่กว้างมาก จักรยานมีให้ขี่ฟรีตลอด
ห้องพักที่นี่ส่วนใหญ่จะอยู่บนเรือ
บ้านพักเรือ
บึงกว้างมาก มีจักรยานน้ำให้ถีบด้วย
เรือสภาพเก่ามาก
เรือที่เรานอนกัน
เรือลำนี้ดูท่าทางใหม่ที่สุด แต่ก็แพงที่สุดด้วย
ลำนี้คงไม่มีใครนอน
มาแอบถ่ายหน้าบ้านคนอื่น
บ้านริมธาร อยู่ริมน้ำเลย บรรยากาศดีมาก แต่เหมือนอยู่ในป่าเลย เดินไกลมากๆ
แถวๆ บ้านริมธาร
เดินเหนื่อยแล้ว นั่งพักดูดอกไม้ก่อน
รีสอร์ทนี้โดยรวมแล้ว บรรยากาศดีใช้ได้ แต่ห้องพักเก่ามากและไม่มีอะไรเลยเมื่อเทียบกับราคา ถ้าใครจะลองมาพักควรมาวันธรรมดาเพราะจะถูกมาก แต่ไม่ค่อยแนะนำให้มา ที่อื่นราคาพอๆ กันแต่ดูดีกว่านี้มีอีกหลายที่
พนักงานที่นี่บริการดีแต่คุยกันลำบากมาก (คุยกันภาษาไทยไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะส่วนมากมาจากประเทศเพื่อนบ้าน)
กิจกรรมมีให้เล่นฟรีหมดทั้ง จักรยาน เรือแคนู
อาหารพอไหวแต่มีให้เลือกน้อยมาก ทั้งอาหารเช้าและเย็น มื้อเย็นส่วนมากมีแต่ปลาหมึก
ไปพายเรือเล่นกันต่อ
พายจนเหนื่อย
เล่นจนเหนื่อย ได้เวลากินข้าวเย็นล่ะ ข้าวเย็นกินบนดาดฟ้าเรือใหญ่
ที่นั่งบนดาดฟ้า กินไปชมวิวไป
วิวมองจากบนดาดฟ้า
ได้เวลานอนล่ะ ห้องนอนแคบมาก
เช้าแล้ว เดี่ยวไปดำน้ำกัน จริงๆ มีออกไปตกปลาหมึกตอนกลางคืนด้วย แต่ฝนตกทุกคืนเลยอด
ทางเดินไปท่าเรือ
ร้านอาหารริมทะเล
ถึงท่าเรือแล้ว วันนี้นึกว่าจะไม่ได้ไปดำน้ำซะแล้ว ฝนตกแต่เช้าเลย แต่สายๆ แดดออกแล้ว
เด็กตัวน้อยๆ
เรือที่นั่งไปดำน้ำกัน ถ่ายตอนวันที่จะกลับล่ะ ตอนไปลอยอยู่กลางทะเล ต้องนั่ง Speed Boat ไปขึ้นเรืออีกที
หมาแสนรู้ ตั้งท่าให้ถ่ายรูปเลย เจ้าตัวนี้เป็นไกด์พาเที่ยวทั่วรีสอร์ทมาแล้ว เดินไปทางไหนมันก็ตามไปด้วย
.
เดินจนเหนื่อยเลยหนีลงไปนั่งในน้ำ
ขึ้นเรือแล้ว น้ำยังไม่ค่อยสวยเลย
หายหน้าไปนานเลย ขอโชว์ตัวบ้าง
มาถึงเกาะแรกแล้ว เกาะทองหลาง น้ำใสมาก เห็นแล้วค่อยชื่นใจหน่อย
มีกั้นทุ่นไว้ให้ดำน้ำด้วย
ลอยตัวสบายจัง
น้ำเข้าตา
ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปมาเพราะอยู่แต่ในน้ำ
กลับมาถึงเกาะช้างแล้ว เรือมาจอดให้ลงที่บางเบ้า แล้วให้ Speed Boat มารับกลับ
วันสุดท้ายล่ะ 3 วันทำไมมันเร็วจัง ขากลับแวะจุดชมวิวคราวนี้ฝนไม่ตกเลยเห็นทะเลสวยมาก
ดอกไม้แถวจุดชมวิว
ซื้อปลาหมึกปิ้งกันก่อน
ขอจบทริปนี้ด้วยปลาหมึกปิ้งตัวใหญ่ๆ เหนียวๆ
ไว้เจอกันทริปหน้าที่ภูเก็ต