โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2557 เวลา 10.00 น. ที่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ หัวหน้าภาควิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง ม.เกษตรศาสตร์ เปิดเผยงานนักวิจัยจากที่ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมงได้ลงพื้นที่สำรวจและติดตามระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในพื้นอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยองมากกว่า 40 จุดในระยะเวลา 6 เดือน พบว่าสภาพปะการัง 400-500 ก้อน ในพื้นที่อ่าวพร้าว (samet oil spill) ที่จากเดิมพบว่ามีการฟอกขาวในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาเริ่มมีการฟื้นตัวดีขึ้นตามลำดับ จนปัจจุบันไม่พบการฟอกขาวแล้ว แต่ยังมีการแสดงออกของโรคปะการัง เช่นลักษณะสีที่เปลี่ยนไปทำให้แม้ว่าจะไม่มีการฟอกขาวก็ยังไม่กลับสู่สภาพปกติ จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังติดตามต่อไปอย่างน้อย 1-2 ปี โดยขณะนี้มีการตรวจพบความปกติของน้ำทะเลที่มีอุณหภูมิเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด และหากในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.น้ำทะเลมีอุณหภูมิร้อนขึ้นฉับพลัน ก็อาจจะทำให้เกิดปะการังฟอกขาวฉับพลันได้ (http://www.thairath.co.th/content/407938)
ส่วนน้ำทะเลร้อยละ 90 ไม่พบสารดังกล่าวแล้ว ทำให้สามารถลงเล่นน้ำและรับประทานอาหารทะเลในบริเวณนั้นได้ (http://www.thairath.co.th/content/407938)
การฟื้นตัวของสภาพแวดล้อมบริเวณเกาะเสม็ดเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ หลังจากการประสบกับเหตุการณ์ข่าวน้ำมันรั่วไหลเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการเฝ้าติดตามจากนักวิชาการเพื่อแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องและจริงจัง รวมทั้งการปรับสภาพสิ่งแวดล้อมเองตามธรรมชาติ ล่าสุด ได้มีการเปิดเผยจากทีมนักวิจัย มหาวิทยาลัยเกษตร ถึงการติดตามสภาพการฟื้นตัวของสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะปะการัง และน้ำทะเล บริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด (koh samet oil spill) อีกครั้ง
ถือเป็นอีกหนึ่งข้อมูล ที่ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวได้เห็นถึงสภาพแวดล้อมบนชายหาดเกาะเสม็ด ที่ค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญการยืนยันถึงน้ำทะเลที่ปัจจุบันสามารถลงเล่นน้ำได้รวมถึงอาหารทะเลก็สามารถทานได้แล้ว อีกทั้งสภาพปะการังก็ดีวันดีคืน เป็นหนึ่งในนิมิตรหมายอันดี ของชายหาดเสม็ดที่จะกลับมาสวยสมบูรณ์เช่นเดิม...
|